เผยความลับฉบับ “มัทฉะ” เครื่องดื่มยอดฮิตสไตล์ญี่ปุ่น ที่ควรรู้ก่อนดื่ม
มัทฉะคืออะไร ?
“มัทฉะ” ต่างจากชาเขียวตรงที่กระบวนการผลิตโดยจะคลุมต้นชา 30 วันก่อนเก็บเกี่ยว เพื่อป้องกันการเปลี่ยนสารธีอะนีน (Theanine) เป็นแคทีชิน (Catechin) ที่ใบชาเมื่อโดนแสงแดด แล้วการนำใบชาเขียวมาบดเป็นผงทั้งใบโดยไม่มีการคัดแยกกากออก ซึ่งไม่เหมือนการดื่มชาเขียวทั่วไปที่เราต้องกรองใบชาออกก่อนดื่มน้ำชา และด้วยเหตุนี้การดื่มมัทฉะจึงทำให้เราได้รับประโยชน์จากใบชามาแบบเต็ม ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็จะได้รสขมค่อนข้างมาก ซึ่งอาจจะทำให้หลายคนรู้สึกว่าดื่มยาก ดังนั้นเมนูที่เหมาะกับมัทฉะจึงต้องมีการเติมนมลงไปด้วย เพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้นกลายมาเป็นมัทฉะลาเต้ ที่นิยมรับประทานกันในปัจจุบันนั่นเอง
มัทฉะที่ดีควรเป็นอย่างไร ?
ใคร ๆ ก็อยากได้ “มัทฉะ” ที่มีคุณภาพด้วยกันทั้งนั้นแหละ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ? ว่ามัทฉะที่กำลังมองหาอยู่เป็นของดีมีคุณภาพ เพื่อให้เพื่อน ๆ สามารถแยกความแตกต่างของคุณภาพมัทฉะได้ วันนี้เราจะมาบอกให้รู้ว่ามีหลักในการดูอย่างไรบ้าง ? ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยจ้า !
แหล่งที่มา
มองหาชาเขียวมัทฉะแท้ที่ปลูกในนิชิโอะ และเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น หรือในภูมิภาคอูจิของเกียวโตที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานเรื่องชาเขียว และเป็นที่รู้จักกันดีในญี่ปุ่นในฐานะศูนย์กลางแห่งมัทฉะ โดยหากเทียบกับประเทศอื่น ๆ แล้วญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่ผลิตผงมัทฉะที่มีคุณภาพมากที่สุด
สัมผัสและความรู้สึก
วิธีทดสอบง่าย ๆ ว่าผงมัทฉะนั้นคุณภาพดีหรือไม่ ? ให้ลองใช้นิ้วมือสัมผัสเบา ๆ หากผิวสัมผัสของมัทฉะนั้นให้ความรู้สึกที่นุ่มนวล คล้ายกับของแป้งเด็กหรืออายแชโดว์ นั่นคือมัทฉะที่มีคุณภาพ
สี
เป็นองค์ประกอบที่ง่ายที่สุดในการจำแนกมัทฉะคุณภาพดี มัทฉะที่ดีควรมีสีเขียวสดใส ยิ่งสีเขียวยิ่งดี ส่วนมัทฉะที่มีเกรดรองลงมามักจะมีสีเหลืองหรือออกไปทางสีน้ำตาลเสียมากกว่า
กลิ่น
กลิ่นที่ดีมักมีผลกับเรื่องของรสชาติ กลิ่นที่ดีของมัทฉะก็มีผลกับเรื่องของคุณภาพมัทฉะเช่นกัน โดยมัทฉะที่มีคุณภาพจะมีกลิ่นหอมหวานสดชื่นซึ่งเกิดจากกรดอะมิโนสูง รสชาติมัทฉะที่ได้ก็จะดีตามไปด้วย
รสชาติ
สำหรับคนที่ไม่เคยลองดื่มมัทฉะมาก่อน มัทฉะในระดับพรีเมียมจะมีรสอูมามิกลมกลอมกำลังดีซึ่งแตกต่างกันเมื่อเปรียบเทียบกับรสขมและฝาดของมัทฉะเกรดที่รองลงมา
ฟอง
เมื่อตีมัทฉะที่มีคุณภาพดีสิ่งที่สังเกตได้อย่างชัดเจนคือ จะต้องมีชั้นโฟมและฟองครีมอยู่ด้านบน ไม่ใช่แค่ชั้นบาง ๆ ที่มีฟองอากาศขนาดใหญ่ นี่เป็นคุณลักษณะที่ดีที่สุดที่คุณสามารถบอกได้ว่ามัทฉะที่ดื่มนั้นดีหรือไม่
ทำไมมัทฉะถึงเป็นที่นิยม
“มัทฉะ” ถือเป็นชาเขียวชั้นดีที่นิยมใช้ในพิธีชงชาของชนชั้นสูงในญี่ปุ่น ด้วยกรรมวิธีการบดยอดอ่อนใบชาอย่างพิถีพิถันจนได้ผงมัทฉะสีเขียวนวล และยังเป็นประเภทของชาเขียวที่คนทั่วโลกนิยมดื่มกันมากที่สุดอีกด้วย ด้วยรสชาติที่สดชื่น ดื่มง่าย
ประเภทมัทฉะที่เป็นที่รู้จัก
นิชิโอะมัทฉะ เขียวระดับพรีเมียมจากเมืองนิชิโอะ ประเทศญี่ปุ่นแหล่งผลิตชาเขียวเกรดเอของญี่ปุ่น คัดเฉพาะชาอ่อน 3 ใบแรก จากต้นชาซึ่งถูกคลุมไว้ไม่ให้โดนแสงแดด เพื่อให้ได้ชาสีเข้ม และคงคุณประโยชน์ของชาไว้มากที่สุด อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบชารสเข้ม สามารถนำไปทำเครื่องดื่มชาเขียวลาเต้ทั้งแบบร้อน และเย็นหรือใช้ประกอบเมนูอื่น ๆ อย่างเค้กชาเขียว หรือไอศกรีม ก็ยังคงความหอม แฝงความขมแบบกลมกล่อมของชาเขียวแท้ไว้ได้เป็นอย่างดี
อูจิมัทฉะ “อูจิ” คือชื่อเมืองหนึ่งในจังหวัดเกียวโต เป็นแหล่งผลิตชาชื่อดังในญี่ปุ่น เพราะเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 12 สมัยราชวงศ์ซ่งของจีน ได้มีนักบวชชาวญี่ปุ่นนำเมล็ดพันธุ์มาจากประเทศจีน และเลือกเมืองอูจิ เป็นที่เพาะปลูกเนื่องจากล้อมรอบไปด้วยภูเขา และแม่น้ำ มีธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีอากาศที่บริสุทธิ์ และมีอุณหภูมิในช่วงกลางคืนกับกลางวันค่อนข้างแตกต่างกันมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการผลิตชาให้มีคุณภาพดี กล่าวได้ว่าชาชนิดแรกที่ดื่มกันในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นก็คือมัทฉะที่ผลิตจาเมืองอูจิเมืองนี้นี่เอง
พิธีชงชา
พิธีชงชา 茶道(Sadou) หรือ 茶の湯 (Cha no yu) นี้เป็นพิธีการดื่มชาเขียวของประเทศญี่ปุ่นที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ผู้ที่ให้กำเนิดพิธีชงชาที่เป็นแบบแผนอย่างในปัจจุบันนั้น คือ เซ็น โนะ ริคิว (Sen no rikyu) โดยหัวใจหลักของพิธีชงชาที่สำคัญเลยก็คือ ความสุนทรีย์ในความเรียบง่าย การรวมเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติด้วยจิตใจที่นิ่งสงบ และบริสุทธิ์ นอกจากนี้ในพิธีชงชายังมีแนวคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าบ้าน และแขกผู้มาเยือนว่า 一期一会(Ichigo ichie) แปลว่า “เสมือนว่าทั้งสองเจอกันแค่ครั้งเดียว จึงต้องให้เกียรติและทำให้ดีที่สุด” โดยในพิธีชงชานั้นจะใช้ “มัทฉะ” ที่ทำจากยอดชาที่ต้องเก็บด้วยมือก่อนแสงแรกของวัน คัดเฉพาะใบอ่อน 3 ใบแรกที่สมบูรณ์ก่อนนำเข้าสู่กระบวนการต่าง ๆ จากนั้นนำใบชาที่แห้งจากการอบจะถูกนำไปบดจนกลายเป็นผงละเอียด และด้วยความพิถีพิถันนี้เอง “มัทฉะ” จึงถูกนำไปใช้ในพิธีชงชา บนพื้นฐานปรัญชาแบบเซน ที่ว่าด้วยเรื่องความกลมกลืนกับธรรมชาติ การเคารพซึ่งกันและกัน ความบริสุทธ์ และความสงบ โดยวิธีการชงชามีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. ใช้ชะฉะคุ ตักผงชาจากโถใส่ชาลงในถ้วยชา
2. ใช้กระบวยตักน้ำ ตักน้ำร้อนใส่ถ้วยชา
3. ใช้ชะเซนคนชาให้เข้ากัน
4. สำหรับแขกผู้ดื่มชา จะจับถ้วยชาด้วยมือขวา โดยแบมือซ้ายเพื่อวางถ้วยชา
5. โดยการหมุนถ้วยชาไปตามเข็มนาฬิกา แล้วค่อยดื่ม
6. หลังจากดื่มชาแล้ว เช็ดขอบถ้วยตรงบริเวณที่ดื่ม จากนั้นหมุนถ้วยชาทวนเข็มนาฬิกา 3 ครั้ง แล้วจึงวางถ้วยชาเพื่อส่งคืน
หมายเหตุ ชะฉะคุ คือ ช้อนตักชา โดยทั่วไปทำจากไม้ไผ่ มีลักษณะยาว ปลายแหลมเล็ก
ชะเซน คือ อุปกรณ์ที่คนชาให้เข้ากัน
ประโยชน์ของมัทฉะ
1. มัทฉะ 1 กรัม มีสารทาเคชินสูงถึง 150 มิลลิกรัม มีค่าโอแรค (ORAC) หรือค่าที่ใช้วัดประสิทธิภาพสารต้านอนุมูลอิสระมากถึง 1,300 กรัม
2. อุดมไปด้วยวิตามินเอ ซี และอี ที่มีส่วนช่วยชะลอวัยทำให้ดวงตา และผิวพรรณสดใส
3. มัทฉะช่วยเพิ่มพลังได้อย่างดี เพราะเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยคาเฟอีนโดยธรรมชาติ มัทฉะ 1 ช้อนชาให้คาเฟอีน 60-70 มิลลิกรัม เทียบเท่ากับการดื่มเอสเพรสโซ่ 1 ชอต
4. การดื่มมัทฉะไม่ได้ทำให้เกิดผลข้างเคียงอย่างการดื่มกาแฟ เหตุผลเพราะในมัทฉะประกอบไปด้วย แอล-ทีอะนีน ที่ช่วยชดเชยผลข้างเคียงจากคาเฟอีน และช่วยเพิ่มพลังงา
5. ให้แก่ผู้ดื่มแทนที่จะเป็นความสดชื่นเพียงชั่วครู่ชั่วคราว และยังช่วยให้ความจำ และการจดจ่อดีขึ้นด้วย
ทางเลือกที่สะดวกและง่ายสำหรับคนที่อยากหันมาดื่ม “มัทฉะ” ต้องเครื่องดื่มมัทฉะจาก BONCAFE ที่มาพร้อมกับแพ็คเกจโฉมใหม่ล่าสุด อร่อยเข้มข้นเหมือนเดิม ราคาเดิม มีให้เลือก 3 แบบ ได้แก่
นิชิโอะ มัทฉะ กรีนที เบส (รสเข้ม) นั้นจัดอยู่ใน “Matcha Grade Premium” เหมาะสำหรับร้านค้า ร้านเบเกอรีที่จะนำผงมัทฉะไปทำเครื่องดื่มชาเขียวลาเต้ทั้งแบบร้อน และเย็น หรือใช้ประกอบเมนูอื่น ๆ อย่างเค้กชาเขียว หรือไอศกรีม ก็ยังคงความหอมขมกลมกล่อมของชาเขียวแท้ไว้ได้อย่างดี หรือจะนำไปใช้ทำเบเกอรีของหวานอื่น ๆ เช่น แยม คุกกี้ ชีทเค้กชาเขียว ก็อร่อยไม่แพ้กัน
กลิ่น : มีกลิ่นหอมชาที่ชัดเจน
สี : สีเขียวเข้ม
รสชาติ : รสชาติเข้ม
อูจิ มัทฉะ กรีนที เบส (รสนุ่มละมุน) นั้นจัดอยู่ใน “Matcha Grade Hight” เหมาะสำหรับการนำมาทำเป็นเครื่องดื่มชาเชียวที่มีรสชาติหวานนุ่มละมุนลิ้น ไม่จะเป็นเครื่องดื่มแบบร้อน เย็น หรือปั่น สามารถนำไปชงเป็นเครื่องดื่มก็ได้เช่นกัน เพียงแต่ สีของเกรด Hight จะอ่อนกว่าเกรด Premium หากทำเป็นเครื่องดื่มเหมาะสำหรับเมนูมัทฉะลาเต้เย็น หรือร้อนที่มีส่วนผสมของนม เกรดนี้จะเข้ากันกับนม หรือครีมมากกว่าเกรด Premium นอกจากนี้ยังเหมาะกับการนำไปทำไอศกรีมเพราะจะให้รสชาติที่เข้มข้น และกลิ่นหอมเตะจมูก แถมรสชาติยังอร่อยลงตัว ไม่ต้องเติมอะไรเพิ่มเลยล่ะค่ะ และในพิธีชงชามักจะใช้ Matcha Grade Hight ในการประกอบพิธี
กลิ่น : มีกลิ่นหอมชา
สี : เขียวอ่อน
รสชาติ : รสชาติละมุน ดื่มง่าย
อูจิ มัทฉะ กรีนที ลาเต้ (ผงสำเร็จรูป 3 in 1) นั้นจัดอยู่ใน “Matcha Grade Hight” เป็นการนำผงชาเขียวอูจิมาผสมกับน้ำตาล และครีมเทียมจนได้ส่วนผสมที่ลงตัว เหมาะสำหรับร้านค้าหรือคนที่ชอบดื่มชาเขียวอยู่บ้าน นำมาทำเป็นเมนูเครื่องดื่มแบบร้อน เย็น ผสมน้ำพร้อมดื่มเลย หรือทำเป็นเมนูปั่น ก็อร่อยครบจบในตัว มั่นใจได้ว่าเมนูชาเขียวจะไม่ผิดเพี้ยนไปจากสูตรต้นตำรับแน่นอน
กลิ่น : มีกลิ่นหอม
สี : สีเขียวนม
รสชาติ : มีรสหวานหอมละมุน กลมกล่อมในตัว
อ้างอิงบทความจาก www.wongnai.com