พาส่องเมล็ดกาแฟไทย ทางเลือกใหม่ที่ใช่ของบาริสต้าและคอกาแฟ
ในยุคที่การบริโภคกาแฟเป็นที่นิยมกันทั่วโลก และคอกาแฟยุคใหม่ไม่เพียงแค่ดื่มกาแฟเพื่อเป็นกิจวัตรยามเช้า แต่ดื่มเพื่อลิ้มลองรสชาติที่นุ่มนวล ซับซ้อน อีกทั้งกาแฟยังกลายเป็นศิลปะในการรังสรรค์เครื่องดื่มที่แพร่หลายทั่วโลก เมล็ดกาแฟไทยกำลังเป็นที่น่าจับตามองในวงการบาริสต้า และเป็นทางเลือกที่เป็นที่นิยมมากขึ้นสำหรับหมู่คอกาแฟทั่วโลก
ด้วยสภาพภูมิประเทศที่สามารถปลูกได้ทั้งเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อราบิกา และสายพันธุ์โรบัสต้า สายพันธุ์หลักที่คนนิยมดื่มทั่วโลก มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นความนุ่มนวล กลิ่นหอมเฉพาะตัว และความซับซ้อนของรสชาติตามสภาพภูมิประเทศและกระบวนการปลูกอย่างที่พิถีพิถัน
โดยความแตกต่างระหว่างเมล็ดกาแฟไทยสายพันธุ์อราบิกา และโรบัสต้า คือ
อราบิก้า: ให้รสชาติที่ซับซ้อนและหลากหลาย ด้วยพื้นที่ปลูกจะอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากกว่า 800 เมตร จึงให้รสชาติออกหวานแบบผลไม้ (Fruity) และกลิ่นหอมที่โดดเด่น เช่น ดอกไม้, น้ำผึ้ง หรือถั่ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของถิ่นที่ปลูก และเป็นสายพันธุ์ที่ให้ความเป็นกรด หรือที่เรียกว่า Acidity ที่ชัดเจน จึงมีเอกลักษณ์ในความออกเปรี้ยว และสดชื่น
บอดี้หรือความหนักแน่น: ให้สัมผัสที่นุ่มนวล
โรบัสต้า: ให้รสชาติที่เข้มข้น หนักแน่น และมีความขมปลายมากกว่า ให้รสชาติโทนถั่วแบบ Nutty ซึ่งจะให้ความหวานและเปรี้ยวน้อยกว่ากาแฟอราบิก้า เนื่องจากมีความเป็นกรดต่ำ แต่มีคาเฟอีนสูง จึงนิยมนำมาทำเป็นเมนูเอสเพรสโซ่ หรือกาแฟลาเต้ที่ต้องการความหนักแน่นของกาแฟเป็นหลัก
บอดี้หรือความหนักแน่น: ให้รสสัมผัสเต็มปากเต็มคำ
หากบาริสต้าท่านไหนต้องการรสชาติกาแฟที่เบา นุ่มนวล สดชื่น และให้ความหวานอมเปรี้ยวโทนผลไม้ แนะนำเป็นเมล็ดกาแฟอราบิก้า แต่หากชอบความเข้มข้น หนักแน่น เต็มรสกาแฟ และอยากทำเป็นเมนูผสมนม แนะนำเป็นเมล็ดโรบัสต้า
หากผู้ประกอบการร้านกาแฟหรือบาริสต้ากำลังมองหาเมล็ดกาแฟไทยที่ตอบโจทย์สำหรับธุรกิจ ทั้งในแง่ของรสชาติและราคา สามารถศึกษาแหล่งปลูกในแต่ละจังหวัด เพื่อตัดสินใจเลือกเมล็ดกาแฟที่ให้รสชาติตามที่แต่ละร้านค้าต้องการ
เพราะในประเทศไทยมีแหล่งปลูกเมล็ดกาแฟสำคัญชื่อดังระดับโลกถึง 5 จังหวัด ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการปลูกเมล็ดกาแฟ โดยแต่ละภูมิภาคมีการปลูกสายพันธุ์ที่แตกต่างกันด้วยสภาพภูมิอากาศ และสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการปลูก และรสชาติของแต่ละสายพันธุ์นั้น ทำให้ผู้ประกอบการหรือบาริสต้าที่กำลังเลือกเมล็ดกาแฟสำหรับการใช้งาน มีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น
เชียงใหม่: เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีสภาพอากาศเย็น และสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 800-1,500 เมตร ความชื้น, คุณภาพดิน และปริมาณแสงแดดอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่นี้มีแหล่งปลูกกาแฟชื่อดังอย่าง อำเภออมก่อย, อำเภอดอยสะเก็ด, อำเภอกัลยาณิวัฒนา จึงนิยมปลูกกาแฟอราบิก้า โดยได้รสชาติของความฟรุตตี้ และกลิ่นหอมโทนดอกไม้
เชียงราย: เป็นจังหวัดที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 800-1,500 เมตร และสภาพแวดล้อมโดยรวมเหมาะแก่การลูกกาแฟอราบิก้าให้ได้คุณภาพสูง ซึ่งจังหวัดเชียงรายนี้มีแหล่งปลูกกาแฟชื่อดังอย่าง ดอยช้าง, ดอยวาวี, ดอยปางขอน, ที่มีชื่อเสียงระดับโลก
น่าน: จังหวัดน่านมีพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 800-1,500 เมตร และสภาพแวดล้อมโดยรวมอุดมสมบูรณ์ จึงเหมาะสำหรับการปลูกกาแฟอราบิก้าเช่นกัน ซึ่งจังหวัดน่านนี้มีแหล่งปลูกกาแฟชื่อดังอย่าง บ้านมณีพฤกษ์, บ้านสันเจริญ, ดอยสกาด
ชุมพร: ได้รับฉายาว่า “เมืองหลวงแห่งโรบัสต้า” มีพื้นที่การปลูกเมล็ดกาแฟใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยสภาพอากาศร้อนชื้น จึงเหมาะสำหรับการปลูกกาแฟโรบัสต้า เพราะกาแฟโรบัสต้าทนสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นได้เป็นอย่างดี จึกมักจะถูกนำไปทำเป็นกาแฟสำเร็จรูป หรือนำไปเบลนด์สำหรับกาแฟที่ต้องการรสชาติเข้มข้น และมีคาเฟอีนสูง
ระนอง: อีกหนึ่งแหล่งปลูกกาแฟโรบัสต้าที่สำคัญชั้นนำของประเทศไทย ด้วยสภาพภูมิอากาศที่เหมาะแก่การปลูกเมล็ดกาแฟโรบัสต้า จึงทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้น กลิ่นหอมเข้ม และมีคาเฟอีนสูง
ในปัจจุบันนี้ อุตสาหกรรมเมล็ดกาแฟได้รับความนิยม และมีการปลูกอย่างแพร่หลายในประเทศไทยเป็นอย่างมาก ทั้งคุณภาพความสดใหม่จากไร่สู่ถุง และการขนส่งที่รวดเร็วก็มีมากเช่นกัน อีกทั้งการเลือกใช้เมล็ดกาแฟที่ปลูกในประเทศไทย ยังช่วยอุดหนุนและสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวไทยอีกด้วย ถือเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจ และกระจายรายได้เข้าสู่ชุมชนได้อย่างยั่งยืน
โดย บอนกาแฟ เองก็มีเมล็ดกาแฟไทยคุณภาพดีให้เลือกอย่างหลากหลายตามความต้องการทางด้านรสชาติและราคาให้แก่ผู้ประกอบการเช่นกัน โดยคัดเลือกอย่างพิถีพิถันจากแหล่งปลูกชื่อดังของประเทศ ผ่านกระกวนการคั่วและแบลนด์ เพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟที่ให้รสชาติ และกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์มากที่สุด
เมล็ดกาแฟแนะนำจาก บอนกาแฟ
บอนกาแฟ เอสเย็น (BONCAFE ES-YEN)
สายพันธุ์: อราบิกา และโรบัสต้า
ระดับการคั่ว: คั่วกลางค่อนเข้ม
เมล็ดกาแฟเบลนด์ที่ทานง่าย รสสัมผัสดี จากการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเมล็ดกาแฟ 2 สายพันธุ์ อราบิกาจากแหล่งปลูกชื่อดังทางตอนเหนือของประเทศไทย และสายพันธุ์โรบัสต้า จากแหล่งปลูกชื่อดังทางภาคใต้ของประเทศไทย ได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ หอมเข้มเต็มรสด้วยกลิ่นและรสชาติโทนมิลค์ช็อกโกลแลต, นัตตี้ ซึ่งเป็นเมล็ดกาแฟที่เบลนด์มาเพื่อคอกาแฟชาวไทยที่ชื่นชอบเมนูเอสเย็นเป็นพิเศษ ให้ความเข้มข้นที่ลงตัว กับทั้งเมนูกาแฟดำ และกาแฟนม ไม่ว่าจะเป็นทั้งแบบร้อนหรือแบบเย็น
บาริสต้าและคอกาแฟมั่นใจในคุณภาพได้ขึ้นไปอีก เพราะเมล็ดกาแฟ บอนกาแฟ เอสเย็น ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพและรสชาติในเวทีระดับโลก “International Taste Institute” กับรางวัล “Superior Taste Award ปี 2024 ระดับ 1 ดาว” ซึ่งตัดสินโดยคณะกรรมการที่เป็น Sommelier ชื่อดังระดับโลกกว่า 198 ท่าน ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงคุณภาพและมาตรฐานเมล็ดกาแฟของไทย ที่ได้รับคำชมบนเวทีระดับโลก และเป็นรางวัลที่การันตีว่าคุณภาพเมล็ดกาแฟจากประเทศไทย ถือเป็นอีก 1 ทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคอกาแฟและบาริสต้ายุคใหม่ ที่กำลังมองหาเมล็ดกาแฟเพื่อรังสรรค์เป็นเมนูแก้วโปรดของลูกค้าหลาย ๆ คน
สนใจสั่งซื้อเมล็ดกาแฟ บอนกาแฟ เอสเย็น คลิก > https://bit.ly/3DOHhnB